สภาวิศวกรแจ้งการจัดสัมมนาเจ้าหน้าที่ประจำปี 2566 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ในวันที่ 7-9 ธันวาคม 2566 สภาวิศวกรปิดทำการ
ทั้งนี้ สมาชิกสามารถรับบริการผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง คลิกที่นี่

สภาวิศวกรแจ้งการจัดสัมมนาเจ้าหน้าที่ประจำปี 2566 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ในวันที่ 7-9 ธันวาคม 2566 สภาวิศวกรปิดทำการ
ทั้งนี้ สมาชิกสามารถรับบริการผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง คลิกที่นี่
ประกาศสภาวิศวกรเรื่อง แจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานของสภาวิศวกร เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)กรณีเหตุแผ่นดินไหวและการวิบัติของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก สร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการควบคุมงานก่อสร้างในประเทศ สภาวิศวกรในฐานะองค์กรวิชาชีพที่มีหน้าที่กำกับดูแลการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ได้ดำเนินการในหลายด้านอย่างต่อเนื่องและได้สรุปผลการดำเนินการตามประกาศ เรื่อง แจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานของสภาวิศวกรกรณีเหตุแผ่นดินไหวและการวิบัติของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ฉบับลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 บัดนี้ จึงขอแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ 1. การหาสาเหตุ สภาวิศวกรได้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการศึกษารายละเอียดแบบแปลนอาคารสำนักงานแห่งใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนภารกิจของสภาวิศวกรและยังมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยคณะกรรมการฯ มีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลทางวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาและสรุปผลการสืบสวนพร้อมความเห็นและรายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ คาดว่าคณะกรรมการสอบสวนจะสามารถสรุปผลการดำเนินงานได้ภายในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2568 ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้และเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว สภาวิศวกรจะดำเนินการพิจารณาขยายผลในประเด็นที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่และตามข้อเสนอแนะของสมาชิกต่อไป 2. การให้ความรู้แก่สมาชิก สภาวิศวกรยังคงมุ่งมั่นในการส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ทางวิศวกรรมแก่สมาชิกและสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดทำรายการ “คุยเฟื่องเรื่องวิศวกรรมกับสภาวิศวกร” ซึ่งเป็นรายการเสวนาทางวิชาการที่นำเสนอประเด็นสำคัญในแวดวงวิศวกรรมในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ เมื่อวันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 […]
สภาวิศวกรจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 โดยมีวัตถุประสงค์ ในการส่งเสริมการศึกษา การวิจัย และการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม จํานวน 7 สาขา แต่ในปัจจุบันความก้าวหน้าทาง วิชาการด้านวิศวกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นสภาวิศวกรได้เล็งเห็นถึงความสําคัญจึงออกประกาศกฎกระทรวงกำหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 เพิ่มเติม จำนวน 17 สาขา เพื่อส่งเสริมการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และมาตรฐาน เสริมสร้างความมั่นใจและเป็นที่ยอมรับจากสังคม 1) วิศวกรรมเกษตร 2) วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ 3) วิศวกรรมชายฝั่ง 4) วิศวกรรมชีวการแพทย์ 5) วิศวกรรมต่อเรือ 6) วิศวกรรมบํารุงรักษาอาคาร 7) วิศวกรรมป้องกันอัคคีภัย 8) วิศวกรรมปิโตรเลียม 9) วิศวกรรมพลังงาน 10) วิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ 11) วิศวกรรมยานยนต์ 12) วิศวกรรมระบบราง 13) วิศวกรรมสารสนเทศ 14) วิศวกรรมสํารวจ 15) วิศวกรรมแหล่งน้ํา 16) […]
สภาวิศวกร โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ขวัญชัย ลีเผ่าพันธุ์ อุปนายกสภาวิศวกร คนที่ 2 ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการ MC และ รองศาสตราจารย์ ดร.สุธา ขาวเธียร ประธานคณะอนุกรรมการ TABEE ได้เข้าร่วมการประชุม International Engineering Alliance Meetings 2025 (IEA 2025) ระหว่างวันที่ 9–13 มิถุนายน 2568 เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ขับเคลื่อนแนวปฏิบัติด้านวิศวกรรม และเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศสมาชิกทั่วโลก ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการหารือประเด็นสำคัญเพื่อพัฒนาระบบวิศวกรรมในระดับนานาชาติ ได้แก่ 1️⃣ การยกระดับการรับรองหลักสูตรวิศวกรรม (Accreditation)เน้นการปรับปรุงคู่มือการประเมิน การแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดี และสร้างความเข้าใจร่วมด้านคุณภาพหลักสูตร 2️⃣ การส่งเสริมความคล่องตัวของวิศวกร (Mobility Agreements)แบ่งปันกรณีศึกษา และแนวทางการส่งเสริมการยอมรับคุณวุฒิและสมรรถนะวิศวกรระหว่างประเทศ 3️⃣ การพัฒนาเกณฑ์เทียบเท่าทางวิชาชีพ (Substantial Equivalence)หารือแนวทางประเมินระบบวิศวกรรมของประเทศที่ยังไม่ได้เข้าร่วมข้อตกลงหลัก 4️⃣ การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder Engagement)สนับสนุน Global Reach Initiative […]