เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร และคณะ ได้เข้ารายงานผลการตรวจสอบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 5 เมษายน 2568 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร พร้อมรองศาสตราจารย์ ดร.ขวัญชัย ลีเผ่าพันธุ์ อุปนายกสภาวิศวกร คนที่ 2 นายลือชัย ทองนิล เลขาธิการสภาวิศวกร และผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิศิษฐ์ แสง-ชูโต ประธานคณะทำงานวิศวกรอาสา ได้เปิด “กองอำนวยการร่วมตรวจอาคาร” โดยความร่วมมือระหว่าง สภาวิศวกรและวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมทีมวิศวกรอาสา . โดยมีนายทศพร ศรีเอี่ยม เป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการร่วมตรวจอาคาร . จุดประสงค์เพื่อ – ทวนสอบความปลอดภัยของอาคาร – ประสานงานกับประชาชนและหน่วยงานรัฐ – ให้ข้อเสนอแนะเชิงวิศวกรรมอย่างมืออาชีพ . เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และสร้างความมั่นใจในโครงสร้างอาคาร . เปิดให้บริการแล้ววันนี้ เวลา 09.00 – 17.00 น. เปิดทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ . รายละเอียดเพิ่มเติม : https://coe.or.th/administrativedivision/
ผศ. ดร. ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร ได้รับเชิญเข้าร่วมรายการ “นครฮีลใจ” ทางช่อง ThaiPBS เพื่อพูดคุยในหัวข้อ “วิศวกรอาสากับภารกิจลงพื้นที่เพื่อประชาชน” เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 เวลา 8:50 น.
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 28 มีนาคม 2568 กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการตรวจสอบโครงสร้างอาคารที่ได้รับผลกระทบผ่านแพลตฟอร์ม Traffy Fondue โดยความร่วมมือของสภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดวิศวกรอาสากว่า 200 คน ร่วมตรวจสอบอาคารที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวในเขตกรุงเทพมหานคร กว่า 72 ชม. สามารถตรวจสอบไปแล้วกว่า 83% จากจำนวนคำร้องทั้งหมด 14,430 เคส ผศ. ดร. ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร ได้กล่าวว่า “สภาวิศวกรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก วิศวกรอาสาได้ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานของ กทม. เพื่อให้มั่นใจว่าอาคารต่างๆ ยังมีความมั่นคงแข็งแรงและไม่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย โดยการรับเรื่องผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Traffy Fondue ของกรุงเทพมหานคร ช่วยให้สามารถดำเนินการตรวจสอบได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” สถิติการรับแจ้งปัญหารอยร้าวของอาคารผ่านระบบ พบว่ามี 5 เขตที่มีการแจ้งมากที่สุด ได้แก่ เขตจตุจักร (1,410 เรื่อง) เขตห้วยขวาง (859 เรื่อง) เขตวัฒนา (657 เรื่อง) เขตคลองเตย (653 […]
📢 สภาวิศวกรยืนยันความแข็งแกร่งของอาคารในประเทศไทยหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว ผศ. ดร. ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร เปิดเผยในการแถลงการณ์ร่วมกับภาคเศรษฐกิจจริงและระบบการเงิน ภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีองค์กรสำคัญร่วมแถลง ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และสภาวิศวกร จากการที่กรุงเทพมหานครได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้นมา สภาวิศวกร และ วสท. ได้ระดมวิศวกรอาสาเข้าไปช่วยตรวจสอบอาคาร ซึ่งมีผู้ร้องขอมากว่า 13,000 ราย นั้น ได้รับการตรวจไปแล้วประมาณ 10,000 ราย ซึ่งเป็นการตรวจจากภาพถ่ายที่ส่งเข้ามา และการลงพื้นที่ตรวจอาคารสูงหลายแห่ง โดยพบว่ามีเพียง 2 แห่งที่ได้รับความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญและจำเป็นต้องตรวจสอบเพิ่มเติมโดยวุฒิวิศวกร ขณะที่อาคารส่วนใหญ่ยังคงมีโครงสร้างแข็งแรง และสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ตามมาตรฐานวิศวกรรม ผศ. ดร. ธเนศ ระบุว่า อาคารในประเทศไทยได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นและสามารถต้านทานแผ่นดินไหวได้ โดยเฉพาะอาคารที่มีความสำคัญ อาทิ โรงพยาบาล ระบบโทรคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐาน ประชาชนจึงสามารถมั่นใจได้ว่า […]
วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 รองศาสตราจารย์ ดร.ขวัญชัย ลีเผ่าพันธุ์ อุปนายกสภาวิศวกร คนที่ 2 ให้การต้อนรับคณาจารย์และนักศึกษาจาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เข้าศึกษาดูงานเกี่ยวกับการออกแบบและบริหารจัดการอาคารที่ทำการสภาวิศวกรที่ใช้เทคโนโลยีอาคารเขียวที่ทันสมัย เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ภายในกิจกรรม นักศึกษาได้เรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบอาคารที่ประหยัดพลังงาน/ระบบบริหารจัดการพลังงานและของเสีย/แนวคิดผสานสถาปัตยกรรมเข้ากับระบบงานวิศวกรรม โดยมี คุณณัฐพล ประชาเสรี วิศวกรผู้ออกแบบระบบอาคาร เป็นผู้พาเยี่ยมชมและให้ความรู้ ณ อาคารที่ทำการสภาวิศวกร กิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เห็นตัวอย่างจริงของอาคารที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับวิศวกรรุ่นใหม่ในการพัฒนาอาคารที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต
✨วันที่ 26 มีนาคม 2568 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร และรองศาสตราจารย์ ดร.สุธา ขาวเธียร เหรัญญิกสภาวิศวกร และประธานอนุกรรมการรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ (TABEE) ได้ต้อนรับคณะผู้แทนจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) นำโดยประธานคณะกรรมการที่ประชุมหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมโยธาแห่งประเทศไทย ซึ่งได้เข้าพบเพื่อหารือแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบ OBE เพื่อเป็นแนวทางการรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ (TABEE) ณ อาคารที่ทำการสภาวิศวกร
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์เอนก ศิริพานิชกร กรรมการสภาวิศวกรและอนุกรรมการประสานงานด้านภัยพิบัติและกำกับดูแลวิศวกรอาสาสภาวิศวกร และ นาวาอากาศเอกณัชฐ์ ลิ้มสุวรรณ์ ผู้ชำนาญการพิเศษสาขาวิศวรรมโยธา ลงพื้นที่ไปดูการทดสอบและตรวจสอบตำแหน่งเกิดเหตุสะพานก่อสร้าง ในโครงการทางพิเศษพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก CR. ข่าว ThaiPBS >>> คลิก
19 มีนาคม 2568 – สภาวิศวกรให้การต้อนรับคณาจารย์และนักศึกษาจากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา ในโอกาสเข้าศึกษาดูงานเกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายโอนความร้อนผ่านกรอบอาคาร ตลอดจนแนวทางออกแบบและบริหารจัดการอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในการนี้ คุณณัฐพล ประชาเสรี ผู้ออกแบบวิศวกรรมงานระบบอาคาร ได้ให้ความรู้เบื้องต้น พร้อมนำคณะเยี่ยมชมอาคารต้นแบบของสภาวิศวกร กิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้สัมผัสประสบการณ์จริง แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้ว่าที่วิศวกรนำองค์ความรู้ไปต่อยอดในการพัฒนาโครงการในอนาคต
18 มีนาคม 2568 – ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมประชุมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ณ อาคารที่ทำการสภาวิศวกร เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมความรู้ด้าน AI Literacy แก่วิศวกรไทย รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยึดหลักจริยธรรมและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นความร่วมมือระหว่างสภาวิศวกรและ สวทช. ในการพัฒนาองค์ความรู้ด้าน AI สำหรับวิศวกร พร้อมผลักดันให้ AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมศักยภาพอุตสาหกรรม สังคม และประชาชน ทั้งสององค์กรมีเป้าหมายร่วมกันในการเสริมสร้างขีดความสามารถของวิศวกรไทยให้ก้าวทันเทคโนโลยี ตอบรับยุคอุตสาหกรรมดิจิทัล และส่งเสริมการใช้ AI เพื่อขับเคลื่อนประเทศอย่างมั่นคงและยั่งยืน
