9 มาตรการ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการปลดปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์
ที่มา: คณะอนุกรรมการพัฒนาแนวทางงานวิศวกรรมมุ่งสู่ Net Zero ของสภาวิศวกร

ที่มา: คณะอนุกรรมการพัฒนาแนวทางงานวิศวกรรมมุ่งสู่ Net Zero ของสภาวิศวกร
ประกาศข้อบังคับสภาวิศวกร จำนวน 3 ฉบับ ในราชกิจจานุเบกษา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ดำเนินการประกาศเรื่องข้อบังคับสภาวิศวกร จำนวน 3 เรื่อง ในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศและงานทั่วไป เล่ม 142 ตอนพิเศษ 227 ง วันที่ 23 มิถุนายน 2568 1️⃣ ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการกำหนดค่าจดทะเบียนสมาชิกค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสมาชิกหรือบุคคลภายนอก (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2568 ✨✨✨มีสาระสำคัญ ✨✨✨ดังนี้ ✅ กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมค่าคำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลใบอนุญาต ✅ กำหนดอัตราค่าธรรมเนียม 📌คลิกข้อบังคับสภาวิศวกร 2️⃣ ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยแบบและอายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2568 ✨✨✨มีสาระสำคัญ ✨✨✨ดังนี้ ✅ กรณีใบอนุญาตถูกทำลาย ชำรุด หรือสูญหาย ✅ กรณีประสงค์จะขอเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล ภาพถ่าย เปลี่ยนหรือเพิ่มคำนำหน้าชื่อ หรือในลักษณะอื่นทำนองเดียวกัน 📌คลิกข้อบังคับสภาวิศวกร […]
สภาวิศวกรขอเผยแพร่ประกาศสภาวิศวกร เรื่อง เอกสารคำรับรองตนเอง (Self-Declaration) สำหรับการยื่นคำขอรับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร ในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม (มีผลบังคับใช้วันที่ 9 กรกฎาคม 2568) โดยมีสาระสำคัญ ปรับปรุงเอกสารคำรับรองตนเอง (Self-Declaration) ให้สอดคล้องตามระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยองค์ความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ องค์ความรู้พื้นฐานทางวิศวกรรมและองค์ความรู้เฉพาะทางวิศวกรรมที่สภาวิศวกรจะให้การรับรองปริญญา ประกาศนียบัตรหรือวุฒิบัตรในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2567 และเพื่อให้ลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์สอดคล้องกับ IEA Graduate Attributes and Professional Competencies: Ver.4: June 2021 สำหรับการยื่นขอรับรองปริญญาประกาศนียบัตรหรือวุฒิบัตรในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
ประกาศสภาวิศวกร เรื่อง ความคลาดเคลื่อนจากข้อสรุป Town Hall Meeting กรณีเหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ตามที่สภาวิศวกรได้จัดกิจกรรม Town Hall Meeting เมื่อวันพุธที่ 2 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องวิศวภิวรรธน์ ชั้น 7 อาคารสภาวิศวกร เพื่อรายงานผลการดำเนินงานของสภาวิศวกร และเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิก กรณีเหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม นั้น เนื่องด้วยได้มีการเผยแพร่ข้อความที่คลาดเคลื่อนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า “…สรุปแล้วตึก สตง. น่าจะพังเพราะคอนกรีตผสมน้ำเยอะ…” เป็นการตีความที่คลาดเคลื่อนของผู้รับฟังผู้หนึ่ง ซึ่งมิใช่ความเห็นหรือแถลงการณ์ของสภาวิศวกรแต่อย่างใด ทั้งนี้ กิจกรรม Town Hall Meeting ดังกล่าวมีสมาชิกเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และได้แสดงความคิดเห็นรวมถึงข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์กับสภาวิศวกร อย่างไรก็ตามสภาวิศวกรได้เน้นย้ำว่าสาเหตุที่แท้จริงยังต้องรอรายงานฉบับสมบูรณ์จากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงซึ่งแต่งตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสียก่อน จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน 3 กรกฎาคม 2568สภาวิศวกร
ประกาศสภาวิศวกรเรื่อง แจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานของสภาวิศวกร เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)กรณีเหตุแผ่นดินไหวและการวิบัติของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก สร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการควบคุมงานก่อสร้างในประเทศ สภาวิศวกรในฐานะองค์กรวิชาชีพที่มีหน้าที่กำกับดูแลการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ได้ดำเนินการในหลายด้านอย่างต่อเนื่องและได้สรุปผลการดำเนินการตามประกาศ เรื่อง แจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานของสภาวิศวกรกรณีเหตุแผ่นดินไหวและการวิบัติของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ฉบับลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 บัดนี้ จึงขอแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ 1. การหาสาเหตุ สภาวิศวกรได้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการศึกษารายละเอียดแบบแปลนอาคารสำนักงานแห่งใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนภารกิจของสภาวิศวกรและยังมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยคณะกรรมการฯ มีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลทางวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาและสรุปผลการสืบสวนพร้อมความเห็นและรายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ คาดว่าคณะกรรมการสอบสวนจะสามารถสรุปผลการดำเนินงานได้ภายในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2568 ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้และเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว สภาวิศวกรจะดำเนินการพิจารณาขยายผลในประเด็นที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่และตามข้อเสนอแนะของสมาชิกต่อไป 2. การให้ความรู้แก่สมาชิก สภาวิศวกรยังคงมุ่งมั่นในการส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ทางวิศวกรรมแก่สมาชิกและสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดทำรายการ “คุยเฟื่องเรื่องวิศวกรรมกับสภาวิศวกร” ซึ่งเป็นรายการเสวนาทางวิชาการที่นำเสนอประเด็นสำคัญในแวดวงวิศวกรรมในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ เมื่อวันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 […]
สภาวิศวกรจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 โดยมีวัตถุประสงค์ ในการส่งเสริมการศึกษา การวิจัย และการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม จํานวน 7 สาขา แต่ในปัจจุบันความก้าวหน้าทาง วิชาการด้านวิศวกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นสภาวิศวกรได้เล็งเห็นถึงความสําคัญจึงออกประกาศกฎกระทรวงกำหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 เพิ่มเติม จำนวน 17 สาขา เพื่อส่งเสริมการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และมาตรฐาน เสริมสร้างความมั่นใจและเป็นที่ยอมรับจากสังคม 1) วิศวกรรมเกษตร 2) วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ 3) วิศวกรรมชายฝั่ง 4) วิศวกรรมชีวการแพทย์ 5) วิศวกรรมต่อเรือ 6) วิศวกรรมบํารุงรักษาอาคาร 7) วิศวกรรมป้องกันอัคคีภัย 8) วิศวกรรมปิโตรเลียม 9) วิศวกรรมพลังงาน 10) วิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ 11) วิศวกรรมยานยนต์ 12) วิศวกรรมระบบราง 13) วิศวกรรมสารสนเทศ 14) วิศวกรรมสํารวจ 15) วิศวกรรมแหล่งน้ํา 16) […]
🎉🎉ข่าวดี สำหรับวิศวกรไทย! ขึ้นทะเบียน ACPE/RFPE กับสภาวิศวกร สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องสัมภาษณ์! ไม่ต้องรอ ไม่ต้องเตรียมตัวสัมภาษณ์อีกต่อไป ✨ASEAN Chartered Professional Engineer (ACPE)✨ สำหรับวิศวกรไทย (ระดับสามัญวิศวกร) ที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ ✨ Registered Foreign Professional Engineer (RFPE)✨ สำหรับวิศวกรอาเซียนที่ต้องการมาทำงานในประเทศไทย ✅ เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด: • ไม่มีสัมภาษณ์ = ประหยัดเวลา• ขยายโอกาสในอาเซียน = เปิดประตูสู่งานวิศวกรรมระดับนานาชาติ• เสริมภาพลักษณ์วิชาชีพ = มีสถานะวิศวกรวิชาชีพระดับภูมิภาค 💖สมัครเลยวันนี้💖 ACPE ➡️➡️➡️ คลิก RFPE ➡️➡️➡️ คลิก 📞สอบถามเพิ่มเติม 1303 ต่อ 207 (ฝ่ายต่างประเทศ)
ประกาศสภาวิศวกร เรื่อง การกำกับดูแลจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม กรณีเหตุแผ่นดินไหวและการวิบัติของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ตามที่ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ซึ่งเป็นอาคารสูง 30 ชั้นที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและเกิดการวิบัติอย่างรุนแรง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยสภาวิศวกรได้มีการแจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของสภาวิศวกรไปแล้วนั้น สภาวิศวกรขอเรียนว่า ตามมาตรา 51 และมาตรา 52 กำหนดให้เลขาธิการสภาวิศวกรจะต้องดำเนินการเสนอเรื่องกล่าวโทษต่อคณะกรรมการจรรยาบรรณโดยไม่ชักช้า เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงจากสื่อสาธารณะว่ามีผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมอาจเข้าข่ายประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม เพื่อให้บุคคลดังกล่าวได้แสดงความบริสุทธิ์ผ่านกระบวนการพิสูจน์ทางด้านวิชาชีพที่โปร่งใสและเป็นธรรมจากผู้ทรงคุณวุฒิทางวิชาชีพ เมื่อคณะกรรมการจรรยาบรรณได้รับเรื่องกล่าวโทษแล้วอาจพิจารณาไม่รับเรื่องหรือส่งเรื่องต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองทำหน้าที่ในการช่วยเหลือตรวจสอบข้อเท็จจริงและแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้ หากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเห็นว่า ข้อร้องเรียนไม่มีมูลก็จะไม่รับเรื่องไว้พิจารณาหรือหากเข้าข่ายการประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม คณะกรรมการจรรยาบรรณจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อไต่สวนในเชิงลึกต่อไป อนึ่ง การกล่าวโทษของสภาวิศวกรเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 ในการกำกับดูแลด้านจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ เพื่อให้ความเป็นธรรมและเปิดโอกาสให้บุคคลดังกล่าว ได้แสดงความบริสุทธิ์ผ่านกระบวนการพิสูจน์ทางด้านวิชาชีพ และแม้จะมีการกล่าวโทษบุคคลใดแล้วก็ตามแต่บุคคลดังกล่าวก็ยังมีสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายและไม่ถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ จนกว่าจะมีคำตัดสินถึงที่สุด ประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์22 พฤษภาคม 2568
ประกาศสภาวิศวกร เรื่อง แจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานของสภาวิศวกร กรณีเหตุแผ่นดินไหวและการวิบัติของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ตามที่ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ซึ่งเป็นอาคารสูง 30 ชั้นและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้เกิดการวิบัติอย่างรุนแรง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก สภาวิศวกรตระหนักถึงความร้ายแรงของเหตุการณ์ดังกล่าว และได้ติดตาม ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินการในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. ด้านการบรรเทาสาธารณภัย 1.1 เมื่อสภาวิศวกรได้รับทราบเหตุแผ่นดินไหวที่ส่งผลกระทบต่ออาคาร สตง. แห่งใหม่ สภาวิศวกรได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโดยทันที โดยจัดส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมให้คำแนะนำทางวิชาการเพื่อสนับสนุนการค้นหาผู้ประสบภัย การเคลื่อนย้ายซากอาคาร และการรื้อถอนโครงสร้างที่ได้รับความเสียหายให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ทั้งนี้ การดำเนินงานทั้งหมดอยู่ภายใต้ข้อพิจารณาด้านความปลอดภัยสูงสุดของผู้ปฏิบัติงาน ผู้ประสบภัย และประชาชนในบริเวณโดยรอบ โดยสภาวิศวกรได้บูรณาการความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร กรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด 1.2 สภาวิศวกรได้จัดส่งวิศวกรอาสาเข้าร่วมปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้การสนับสนุนด้านวิชาการแก่ประชาชนและหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะในด้านการตรวจประเมินความเสียหายของอาคารและให้ข้อเสนอแนะแนวทางในการซ่อมแซมหรือดำเนินการที่เหมาะสมตามหลักวิศวกรรม 1.3 สภาวิศวกรร่วมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดตั้งและเปิด “กองอำนวยการร่วมตรวจอาคารหลังแผ่นดินไหว” ระหว่างวันที่ 5 เมษายน […]
ตามที่ได้ปรากฏข้อมูลเผยแพร่ผ่านทางสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย กรณีที่อาจทาให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อผู้รับข่าวสารได้ว่า สภาวิศวกรเป็นผู้ให้ข่าวเกี่ยวกับการพิสูจน์หลักฐานอาคาร สตง. ถล่ม งบประมาณไม่พอ อาจใช้เวลาเป็น 10 ปี นั้น สภาวิศวกรขอชี้แจงว่า การแสดงความคิดเห็น เนื้อหา ข้อมูล และบทความในเรื่องดังกล่าวที่เผยแพร่ผ่านทางสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย สภาวิศวกรไม่ได้เป็นผู้ให้ข่าวแต่อย่างใด การแถลงข่าวในนามของสภาวิศวกรจะกระทาผ่านช่องทางและบุคคลที่ได้รับมอบหมายอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพื่อให้ข้อมูลที่เผยแพร่มีความถูกต้องและเป็นไปตามอานาจหน้าที่ของสภาวิศวกรตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 สภาวิศวกรขอให้ผู้รับข่าวสารทุกท่านตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลและข่าวสารที่ได้รับ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดและการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องใด ๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สภาวิศวกรโดยตรง จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกันคณะทำงานเผยแพร่ข่าวสารสภาวิศวกร13 พฤษภาคม 2568