หน้าหลัก ข่าวประชาสัมพันธ์ ประกาศสภาวิศวกร เรื่อง แจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานของสภาวิศวกร เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) กรณีเหตุแผ่นดินไหวและการวิบัติของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่

ประกาศสภาวิศวกร เรื่อง แจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานของสภาวิศวกร เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) กรณีเหตุแผ่นดินไหวและการวิบัติของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่

ประกาศสภาวิศวกร
เรื่อง แจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานของสภาวิศวกร เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)
กรณีเหตุแผ่นดินไหวและการวิบัติของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่


ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก สร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการควบคุมงานก่อสร้างในประเทศ สภาวิศวกรในฐานะองค์กรวิชาชีพที่มีหน้าที่กำกับดูแลการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ได้ดำเนินการในหลายด้านอย่างต่อเนื่องและได้สรุปผลการดำเนินการตามประกาศ เรื่อง แจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานของสภาวิศวกรกรณีเหตุแผ่นดินไหวและการวิบัติของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ฉบับลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 บัดนี้ จึงขอแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้

1. การหาสาเหตุ

สภาวิศวกรได้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการศึกษารายละเอียดแบบแปลนอาคารสำนักงานแห่งใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนภารกิจของสภาวิศวกรและยังมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยคณะกรรมการฯ มีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลทางวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาและสรุปผลการสืบสวน
พร้อมความเห็นและรายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ คาดว่าคณะกรรมการสอบสวนจะสามารถสรุปผลการดำเนินงานได้ภายในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2568 ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้และเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว สภาวิศวกรจะดำเนินการพิจารณาขยายผลในประเด็นที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่และตามข้อเสนอแนะของสมาชิกต่อไป

2. การให้ความรู้แก่สมาชิก

สภาวิศวกรยังคงมุ่งมั่นในการส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ทางวิศวกรรมแก่สมาชิกและสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดทำรายการ “คุยเฟื่องเรื่องวิศวกรรมกับสภาวิศวกร” ซึ่งเป็นรายการเสวนาทางวิชาการที่นำเสนอประเด็นสำคัญในแวดวงวิศวกรรมในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้

เมื่อวันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ได้มีการเผยแพร่ตอนที่ 5 (EP.5) ในหัวข้อ “ความปลอดภัยสาธารณะ” ซึ่งเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการ แนวทาง และบทบาทของวิศวกรต่อการป้องกันอุบัติเหตุลดความเสี่ยงในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนแนวทางการประเมิน ตรวจสอบ และบริหารจัดการความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะ

นอกจากนี้ สภาวิศวกรได้มีการเผยแพร่ตอนที่ 6 (EP.6) ในวันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ภายใต้หัวข้อ “บทบาทและหน้าที่ของวิศวกรในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่” ซึ่งจะเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของวิศวกรในแต่ละขั้นตอนของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ตั้งแต่ การบริหารโครงการ การออกแบบ การควบคุมงาน การก่อสร้าง ไปจนถึงความรับผิดชอบตามกฏหมายที่เกี่ยวข้อง และจรรยาบรรณวิชาชีพ

3. การกำกับดูแลการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 และด้านจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม

3.1 ดำเนินการตรวจสอบวิศวกรต่างชาติสภาวิศวกรได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับวิศวกรชาวต่างชาติที่อาจประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมโดยไม่มีใบอนุญาตจากสภาวิศวกร โดยได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอรับข้อมูลหลักฐาน และจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดต่อไป

3.2 ดำเนินการพิจารณาข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมเกินขอบเขตความสามารถตามที่ได้รับอนุญาตให้กระทำได้ ซึ่งเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ

3.3 ดำเนินการกล่าวโทษผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม จำนวน 16 ราย ซึ่งอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรมและการประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ พ.ศ. 2559 ทั้งนี้ หากปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า มีวิศวกรรายใดมีพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายการประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ก็จะเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการจรรยาบรรณเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 ต่อไป

สภาวิศวกรขอเรียนว่า สภาวิศวกรให้ความสำคัญกับสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวโทษได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงพยานหลักฐานอย่างเป็นธรรม การกล่าวโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เป็นไปตามกระบวนการที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และแม้ว่าจะมีการกล่าวโทษแล้วก็ตาม “บุคคลที่ถูกกล่าวโทษยังคงได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และไม่ถือว่าเป็นผู้กระทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ จนกว่าจะมีคำตัดสินถึงที่สุด”ซึ่งสอดคล้องกับหลักการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ตามหลักกฎหมายไทย

3.4 สภาวิศวกรจัดให้มีการประชุมหารือร่วมกันกับสมาพันธ์สภาวิชาชีพ ร่วมกันโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทและแนวทางการดำเนินงาน กำกับดูแลด้านจรรยาบรรณหรือจริยธรรมขององค์กรวิชาชีพ ตลอดจนการผดุงไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีของสมาชิก ระดมความคิดเห็น เพื่อหากลไกการให้ความช่วยเหลือแก่สมาชิกเพื่อรักษาสิทธิและให้ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย กรณีเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ในวันพุธที่ 4 มิถุนายน 2568

4. อื่น ๆ

4.1 สภาวิศวกรได้ออกประกาศสภาวิศวกร เรื่อง แจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานของสภาวิศวกรกรณีเหตุแผ่นดินไหวและการวิบัติของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 และประกาศสภาวิศวกร เรื่อง การกำกับดูแลจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรมกรณีเหตุแผ่นดินไหวและการวิบัติของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ 22 พฤษภาคม 2568

4.2 สภาวิศวกรได้มีหนังสือขอข้อมูลผู้ที่เกี่ยวข้องและหนังสือตอบข้อซักถามเกี่ยวกับอาคาร สตง. จำนวน 31 ฉบับ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2568) และจะติดตามความคืบหน้ารายที่ยังมิได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสภาวิศวกรอย่างใกล้ชิดต่อไป

4.3 สภาวิศวกรได้ชี้แจงศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ที่ขอให้สภาวิศวกรตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏใน Social Media  เรื่อง การพิสูจน์หลักฐานอาคาร สตง. ถล่ม งบฯ ไม่พอ อาจใช้เวลาเป็น 10 ปี เรื่องดังกล่าวไม่ใช่ข้อมูลที่สภาวิศวกรมอบหมายให้กรรมการสภาวิศวกรไปชี้แจง

4.4 สภาวิศวกรได้รวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินงานของสภาวิศวกรเพื่อพิจารณาขยายผลต่อไป อาทิ การจัดหาผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ชำนาญการพิเศษเกี่ยวกับโครงสร้างและแผ่นดินไหวมาวิเคราะห์และวินิจฉัยหาสาเหตุแห่งการวิบัติ แจกแจงสาเหตุของการวิบัติตามกรอบความสามารถการประกอบวิชาชีพ ให้ข้อเสนอแนะและให้คำปรึกษาต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมการก่อสร้างและการบริหารจัดการโครงการ ปรับปรุงระบบสารสนเทศของสภาวิศวกรให้ทันต่อเหตุการณ์และสามารถรวบรวมข้อมูลข่าวสารความก้าวหน้าทางวิชาชีพ

การลักลอบนำเข้าชาวต่างชาติมาประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต และการสะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในวงกว้างทั้งในอุตสาหกรรมก่อสร้างและโรงงานต่างชาติเข้ามาตั้งในไทยโดยไม่ได้รับใบอนุญาต บางแห่งมีลักษณะเป็นบริษัทศูนย์เหรียญ การใช้มหาวิทยาลัยที่ขาดคุณสมบัติหรือจัดการเรียนการสอนเพียงในนามเพื่อออกวีซ่านักศึกษาให้กับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งไม่มีการเรียนการสอนที่แท้จริงและอาจมีพฤติกรรมขายวุฒิการศึกษา

การแก้ไขปัญหาการปลอมแปลงเอกสาร การปลอมลายเซ็นในการยื่นขออนุญาตก่อสร้างหน่วยงานของรัฐและเอกชน โดยจัดทำระบบฐานข้อมูลให้เชื่อมโยงถึงกัน

ท้ายสุดนี้สภาวิศวกรขอยืนยันว่าจะดำเนินการด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และยึดมั่นในหลักวิชาชีพเพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคมและความปลอดภัยของประชาชน

                  สภาวิศวกร
                                                                                 17 มิถุนายน 2568